ปั๊มลมสำหรับโรงงาน เลือกปั๊มลมลูกสูบหรือปั๊มลมสกรูดีกว่ากัน?
สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ที่มีแผนกผลิตและจำเป็นต้องใช้ปั๊มลมเพื่อขับเคลื่อนเครื่องจักรในสายการผลิต ปั๊มลมลูกสูบและปั๊มลมสกรู ต่างก็มีข้อเด่น ข้อด้อยต่างกันมากมาย ถ้าหากผู้ประกอบการรู้และเข้าใจก็จะสามารถเลือกปั๊มลมที่เหมาะสมกับธุรกิจได้ วันนี้ Somax จะมาอธิบายให้ฟัง
แรงม้าสูงสุด
ปั๊มลมลูกสูบมีขนาดหลากหลายมาก เริ่มตั้งแต่ปั๊มลมขนาด ¼ แรงม้า ไปจนถึงขนาด 15- 20 แรงม้า ส่วนปั๊มลมสกรูนั้น จะเริ่มต้นจากขนาด 7.5 แรงม้า ไปจนถึงหลายร้อยแรงม้า ซึ่งถ้าหากธุรกิจของคุณมีขนาดเล็ก อาจจะเลือกปั๊มลมลูกสูบไปก่อนในช่วงเริ่มต้น แล้วค่อยอัพเกรดเป็นปั๊มลมสกรูในภายหลังก็ได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยประกอบอื่นๆ อีกหลายข้อ หม้อแปลงไฟฟ้าของโรงงาน ใช้ไฟ 1 เฟส หรือ 3 เฟส ก็มีความสำคัญ ถ้าหากเราเป็นโรงงานขนาดเล็ก ซึ่งมักจะเป็นไฟ 1 เฟส ซึ่งจะเหมาะกับปั๊มลมขนาดไม่เกิน 3-5 แรงม้า หากต้องการใช้ปั๊มลมที่แรงกว่านั้น ก็ต้องขอหม้อแปลงที่เป็นไฟ 3 เฟส เพราะฉะนั้น หากเป็นโรงงานขนาดเล็ก ใช้ปั๊มลมลูกสูบขนาดไม่เกิน 3-5 แรงม้าเท่านั้น แต่ถ้าหากเป็นไฟ 3 เฟส ก็สามารถใช้ปั๊มลมลูกสูบขนาดใหญ่กว่านั้น หรือเลือกใช้ปั๊มลมสกรูก็ได้
สถานที่ติดตั้ง
หากต้องการใช้ลมจากปั๊มลมขนาด 50 แรงม้า ระหว่างการเลือกใช้ปั๊มลม 10 แรงม้า 5 ตัว กับปั๊มลมสกรู + ถังพักลมและ Air Dryer นั้น การเลือกใช้ปั๊มลมสกรูจะช่วยให้ประหยัดพื้นที่กว่าการใช้ปั๊มลมลูกสูบเป็นอย่างมาก
เสียงรบกวน
ปั๊มลมลูกสูบนั้น ถ้าขนาดใหญ่ก็จะเสียงดังมากเกินกว่า 100 db ระหว่างทำงาน ส่วนปั๊มลมสกรูที่ได้มาตรฐาน
ขณะที่ทำงานจะให้เสียงที่เบาเพียง 60-70 db เพราะฉะนั้นหากโรงงานอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ก็ควรที่จะเลือกใช้ปั๊มลมสกรู แต่ถ้าหากอยู่สถานที่เปิดโล่ง ก็สามารถเลือกใช้ปั๊มลมลูกสูบได้
การดูแลรักษา
ปั๊มลมลูกสูบชิ้นส่วนไม่ซับซ้อน และอะไหล่หาได้ค่อนข้างง่าย หากมีความรู้ทางด้านช่างขั้นพื้นฐาน ก็สามารถดูแลเองได้ เช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนบางชิ้นเองได้ แต่หากเป็นปั๊มลมสกรูต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่ค่อนข้างมีความรู้ ส่วนอะไหล่และชิ้นส่วนต่างๆ ก็มีราคาค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น ค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแลรักษาปั๊มลมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ
ขนาดของถังลม
ปั๊มลมลูกสูบจะถูกติดกับถังพักลมขนาดต่างๆ แต่ปั๊มลมสกรูนั้นต้องซื้อแยกต่างหาก รวมถึงต้องซื้ออุปกรณ์ลมต่างๆ เช่น Air Dryer, Air Filter รวมถึงเดินท่อเชื่อมต่อกัน ซึ่งปั๊มลมลูกสูบค่อนข้างสะดวก เพียงแค่เดินท่อหรือต่อสายออกจากปั๊มลมเข้ากับอุปกรณ์ลมได้เลย
การเคลื่อนย้าย
ปั๊มลมลูกสูบเคลื่อนย้ายค่อนข้างง่าย เพราะมีล้อ แม้จะเป็นปั๊มลมขนาด 15 แรงม้า ก็ยังสามารถเคลื่อนย้ายได้เพียงลำพัง แต่หากเป็นปั๊มลมสกรูที่มีขนาดหลายร้อยกิโล และไม่มีล้อมาด้วยนั้นแล้วเคลื่อนย้ายค่อนข้างลำบาก ต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ในการย้ายเช่นรถโฟล์คลิฟต์ หรือใช้คนจำนวนมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา
ปริมาณลมที่ผลิตได้
ปั๊มลมสกรู ถ้าหากสเปกแรงม้าเท่ากับปั๊มลมลูกสูบ ปั๊มลมสกรูจะผลิตลมได้มากกว่า 10-30% เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นในอีกนัยยะก็คือปั๊มลมสกรูจะประหยัดค่าไฟฟ้าปั๊มลมลูกสูบด้วยนั่นเอง
การแจ้งเตือนต่างๆ
ปั๊มลมลูกสูบจะเป็นระบบ manual ทั้งหมด ผู้ใช้ต้องสังเกตเอาเองว่าปั๊มลมของเราเป็นอย่างไร ผลิตกำลังลมได้ปกติหรือไม่ มักจะได้จากการคาดเดา แต่หากเป็นปั๊มลมสกรู จะมีระบบที่คอยตรวจสอบการทำงานและระบบรายงานผลอย่างละเอียด คอยแจ้งเตือนเมื่อต้องเปลี่ยนน้ำมันหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงหยุดทำงานทันทีหากระบบหรือชิ้นส่วนมีปัญหา
สรุป
การเลือกปั๊มลมสำหรับโรงงาน ระหว่างปั๊มลมลูกสูบและปั๊มลมสกรู ปัจจัยในการเลือกปั๊มลมอันดับแรกคือ ปริมาณลมที่ต้องการใช้นั่นเอง เพราะฉะนั้น ควรเลือกขนาดของแรงม้าที่เหมาะสม เพราะถ้าหากซื้อปั๊มลมแล้วมีขนาดเล็กเกินไป ก็ไม่สามารถนำมาใช้งานได้จริงนั่นเอง เพราะฉะนั้น ก่อนซื้อควรปรึกษากับผู้ที่มีความรู้หรือพนักงานขายที่มีทักษะและความจริงใจในการนำเสนอ