มือใหม่ต้องรู้ ปั๊มลมเสียงเงียบ ปั๊มลมสายพาน (ลูกสูบ) และ ปั๊มลมโรตารี่ (ขับตรง) แตกต่างกันอย่างไร ?
หากถามว่าปั๊มลมแบบไหนดีที่สุด คำตอบก็คือ ไม่มีปั๊มลมที่ดีที่สุด เพราะปั๊มลมแต่ละแบบ มีคุณสมบัติและข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป ปั๊มลมแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด วันนี้ SOMAX จะมาเปรียบเทียบคุณสมบัติของปั๊มลมแต่ละแบบ ตามหัวข้อต่างๆ ดังนี้
ปั๊มลมที่ทำแรงดันสูงสุด
ตามมาตรฐานของปั๊มลมขนาดประมาณ 40-50 ลิตรด้วยกันแล้ว ปั๊มลมโรตารี่และปั๊มลมออยฟรี (หรือปั๊มลมเสียงเงียบ) จะทำแรงได้สูงสุดได้ที่ 8 บาร์/116 ปอนด์ ในขณะที่ปั๊มลมแบบสายพานจะทำได้เพียง 7 บาร์/100 ปอนด์เท่านั้น แต่ถ้าหากเป็นปั๊มลมแบบสายพานแบบครึ่งแรงม้า 1 แรงม้า สามารถตั้งแรงดันได้ถึง 8 บาร์ ปั๊มลมลูกสูบขนาด 1-2 แรงม้าทำแรงดันได้สูงสุดไม่เกิน 10 บาร์/145 ปอนด์ ปั๊มลมสายพานตั้งแต่ 3 แรงม้าขึ้นไป ทำแรงดันได้สูงสุด 14 บาร์/200 ปอนด์ และถ้าเป็นปั๊มลมสายพานแบบไฮเพรสเชอร์สามารถตั้งได้สูงสุดถึง 18 บาร์ เลยทีเดียว
ปั๊มลมที่ทำลมเร็วสุด
ทำลมเร็วที่สุด อันดับ 1 คือ ปั๊มลมโรตารี่ เพราะเป็นระบบขับตรงและรอบจัด จึงทำให้ได้ลมที่เร็วมาก ตามมาติดๆ ชนิดหายใจรดต้นคอคือ ปั๊มลมออยฟรีหรือเสียงเงียบ และปิดท้ายด้วยปั๊มลมระบบสายพาน สายชิวรอบต่ำที่ทำลมได้ช้าที่สุด
ปั๊มลมที่ความทนทาน อายุการใช้งานนานที่สุด
อันดับ 1 ของความทนทาน คือ ปั๊มลมสายพาน เพราะเป็นระบบรอบต่ำจึงสึกหรอน้อย หากใช้งานได้เหมาะสม ดูแลรักษาดีๆ ใช้งานได้ถึง 5-10 ปี แน่นอน ส่วนอันดับ 2 คือปั๊มลมโรตารี่ ด้วยระบบขับตรงด้วยระบบรอบเร็วก็ต้องแลกมาด้วยการสึกหรอที่เร็วด้วยเช่นกัน ส่วนปั๊มลมเสียงเงียบ เนื่องด้วยไม่มีน้ำมันคอยหล่อลื่นในระบบ จึงทำให้สึกหรอมากสุด อายุการใช้งานจึงน้อยสุด
การใช้งานต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าจะทำลมได้ช้า แต่ปั๊มลมสายพานสามารถใช้งานต่อเนื่อง 6-8 ชั่วโมงสบายๆ ถ้าหากใช้งานต่อเนื่องมากกว่านั้น ควรจะดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพื่อยืดอายุการใช้งานให้กับปั๊มลม ส่วนปั๊มลมโรตารี่และออยฟรี สามารถใช้งานต่อเนื่องไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงและต้องหยุดพักอย่างน้อย 15 นาที ก่อนที่จะเริ่มใช้งานต่อไป หากสังเกตุดีๆ จะมีป้ายเตือนเรื่องนี้อยู่ที่บริเวณเพรสเชอร์สวิทช์ปั๊มลม
ความดังของเสียง
เสียงดังที่สุดปั๊มลมโรตารี่ เสียงจะดังประมาณ 85-95 เดซิเบล ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับสภาพแวดล้อมแบบปิด เช่น ใช้ภายในอาคาร เพราะเสียงค่อนข้างดัง รวมถึงสร้างแรงสั่นไปตามโครงสร้างของอาคารอีกด้วย เพราะฉะนั้น ควรใช้ที่อุดหู หากต้องใช้งานนานๆ หรือควรใช้งานในที่โล่งเป็นต้น
อันดับ 2 ปั๊มลมสายพาน เสียงดังประมาณ 75-85 เดซิเบล ดังในระดับที่พอรับได้ ไม่ถึงกับต้องตะโกนคุยกันเมื่อเปิดใช้งาน
อันดับ 3 ปั๊มลมเสียงเงียบ ซึ่งให้เสียงที่เงียบสมกับฉายา หากเป็นปั๊มลมเสียงเงียบที่ได้มาตรฐาน เสียงจะดังอยู่ที่ประมาณ 50-65 เดซิเบลเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับงานตกแต่งภายใน เหมาะสำหรับงานในพื้นที่ปิด เพราะไม่มีเสียงไปรบกวนบริเวณรอบข้าง
ข้อสรุปข้อมูลเปรียบเทียบนี้ เป็นการเปรียบเทียบจุดเด่นจุดด้อยสำหรับปั๊มลมประเภทต่างๆ ใครที่กำลังมองหาปั๊มลมสำหรับใช้ในบ้านหรือใช้เกี่ยวกับงานช่างเล็กๆ น้อยๆ ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์มากในการประกอบการตัดสินใจเลือก ปั๊มลมที่เหมาะสมที่สุด สำหรับคุณ
หมายเหตุ
ข้อมูลเปรียบเทียบนี้เฉพาะปั๊มลมที่ได้มาตรฐานและใช้แรงม้ามอเตอร์ ตรงกับแรงม้าปั๊มลมเท่านั้น
ข้อมูลนี้ใช้เปรียบเทียบกับปั๊มลมประเภทต่างๆ ขนาด 40-50 ลิตร เท่านั้น เป็นข้อมูลประกอบเปรียบเทียบสำหรับผู้ใช้งานพื้นฐานเท่านั้น
ติดต่อสอบถามและปรึกษาระบบลมได้ที่
1. Hotline : 081-899-5566
2. Inbox : https://m.me/somaxcompressor
3. Line Official : @somax
4. E-Mail : telesales@siriwat1976.com